แมนยูไนเต็ด ไม่ได้เล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็จริง แต่เมื่อคืนตั้งใจดู สปอร์ติ้ง ลิสบอน จากการทำงานของ รูเบน อโมริม เป็นกรณีพิเศษ แล้วดันเห็นพวกเขาถล่ม แมนซิตี้ 4-1 เด็กผีอย่างผมเลยรู้สึกมีอารมณ์ร่วมยังไงชอบกลไม่รู้ 555
ต่อไปคือสิ่งอยากจะบอก
1.ทีมสีฟ้าแห่งเมืองแมนออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วดีนักแลแค่ 4 นาทีเท่านั้น
จังหวะขึ้นนำก็มาจากความผิดพลาดของนักเตะเจ้าบ้านเองที่พยายามเซ็ตบอลในแดนแล้วจับลั่นจนโดนฉกไปยิง
ตอนนั้น ผมอุทานในใจสำเนียงแต้จิ๋วปนพระโขนงว่า ‘ชิกหายแน่นอน’ เพราะไม่เพียงแต่ แมนซิตี้ จะนำเร็ว พวกเขายังครองบอลบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียวอีกต่างหาก
2.อย่างที่เกริ่นเอาไว้ ผมตั้งใจศึกษาวิธีการเล่นของ สปอร์ติ้ง ในระบบ 3-4-3 เป็นพิเศษ แถมการเจอทีมระดับพญายักษ์ระดับแชมป์พรีเมียร์ลีก ถือเป็นบททดสอบที่ตรงจุดสุดๆ
ก่อนจะพบว่า
เวลาเล่นเกมรับ ‘วิง-แบ็ค’ จะถอยต่ำลงมาเป็น ‘ฟูลแบ็ค’ เท่ากับมีแผงหลัง 5 ตัว
มิเท่านั้น กองหน้าด้านข้างอีก 2 คนจะลงมาบวกกีบมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คน โดยทิ้งหัวหอกไว้เพียงลำพัง
ดังฉะนั้น ตอนเล่นเกมรับคือระบบ 5-4-1
3. ทีนี้มาดูเกมรุกบ้าง
เนื่องด้วยคุณภาพและชื่อชั้นของ แมนซิตี้ ที่เหนือกว่า ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จึงครองบอลพลางบังคับให้ทีมเจ้าบ้านต้องตั้งรับเสียเป็นส่วนใหญ่
เกมรุกของ สปอร์ติ้ง จึงมาจากจังหวะสวนกลับฉับพลัน และจังหวะฉาบฉวย
อย่างไรก็ตาม
พวกเขากล้าเซตบอลหน้าประตูตัวเองนะครับ หากพบช่องว่างก็จะเล่นเร็วทันที และเล่นกันน้อยจังหวะ เฉพาะอย่างยิ่งบอลยาวทะลุช่อง เนื่องจากผู้มาเยือนดันหลังสูงถึงครึ่งสนามเปิดพื้นที่มากมาย
คิดเอา – เกมเป็นรองอยู่ดีๆ สปอร์ติ้ง จู่โจมแบบสายฟ้าผ่าหัวน้องหมา หลุดไปตีเสมอได้เฉยเลย !!!
4.หัวหอกของ สปอร์ติ้ง อย่าง วิคตอร์ โยเคเรส
ขอบอกว่านักเตะผู้นี้คือกุญแจสำคัญในเกมรุกเลยทีเดียว
สิ่งที่เห็นแล้วต้องอุทานเป็นภาษาสวีเดนว่า ‘เจ๊ตเข้’ คือเขามีความเร็ว และแข็งแกร่ง แถมจังหวะเบียด กระแทกกับกองหลัง เพื่อไปเอาบอล ทำได้สะเด่าไปเลยอีน้องมาก
จังหวะ 50-50 เป็นผู้ชนะตลอด
ฉะนั้น เวลาแทงบอลไปแดนหน้า มันจึงมีตัวโฉบไปเอาที่หวังพึ่งได้
เมื่อเทียบกับ ราสมุส ฮอยลุนด์ แท็คทีมกับ โจชัวร์ เซิร์คซี่ แล้วต้องบอกว่าคนละตีลเลยคุณ
…ว่าแล้วก็ ‘แฮตทริค’ แถมไม่ได้ ‘แฮตทริค’ ใส่ทีมไก่กาในลีกตัวเองซะด้วย
แต่ ‘แฮตทริค’ ใส่ แมนซิตี้ แห่งพรีเมียร์ลีก
แบบนี้ 80 ล้านปอนด์ ถือว่าสมราคาครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวน วานผู้เป็นโค้ชหนีบมาด้วย เพราะหากไม่หนีบมา รับรองเสร็จทีมอื่นแน่
ยกตัวอย่าง อาร์เซน่อ
5. หลังทะลึ่งถล่ม แมนซิตี้ 4-1 ผมนึกถึงคำพูดก่อนเกมนี้ของ รูเบน อโมริม ที่บอกว่า…
‘ถ้าเราชนะ พวกเขา (แฟนบอลของปีศาจแดง) คงคิดว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คนใหม่ได้ถือกำเนิดแล้ว’
คือพี่แกไม่ได้โอ้อวดว่าตัวเองเป็นบรมกุนซือระดับป๋านะครับ ความหมายที่แท้คือแกกลัวเด็กผีจะมองว่าแกคือ ‘นิว เฟอร์กี้’ และไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
แต่พวกคลอดทางตูดที่อ่านหนังสือไม่แตกในบางประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มันชุกชุมมากเกินไปจนป่วยการจะอธิบายให้เข้าใจ
ขอความกรุณาผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดงทุกหมู่เหล่า อย่าเอาชัยชนะเกมนี้มาเป็นเกณฑ์พลางตั้งความหวังกับกุนซือคนใหม่จนสูงเกินไป
เพราะมันจะกลายเป็นความกดดันเสียเปล่าๆ
