อายุน้อยแถมฝีมือดี จิตวิทยาเยี่ยม แท็กติกยอด คว้าแชมป์มาแล้วกับ สปอร์ติ้ง เปิด 5 เหตุผลทำไม แมนยู ควรดึง รูเบน อโมริม เข้ามาเป็นกุนซือใหม่ในโรงละครแห่งความฝัน
รูเบน อโมริม กุนซือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เป็นเต็งหนึ่งที่จะได้มารับงานผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจาก เอริค เทน ฮาก ซึ่งโดนปลดจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า อโมริม คุยกับ แมนยู เบื้องต้นไปแล้ว และเวลานี้รอแค่ให้ทั้งสองสโมสรเจรจากันให้ลงตัวเท่านั้น โดยคาดว่า “ปีศาจแดง” จะต้องจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาให้ สปอร์ติ้ง จำนวน 10 ล้านยูโร (ประมาณ 360 ล้านบาท)
แฟนบอล แมนยู ไม่น้อยเชียร์ให้สโมสรไปดึง อโมริม มาคุมทีม และนี่คือ 5 เหตุผลที่เขาเหมาะมาทำงานในโรงละครแห่งความฝัน
1. ผลงานเยี่ยม
อโมริม ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2020 โดยพาทีมคว้าแชมป์ลีกสองสมัยในซีซั่น 2020/21 และ 2023/24 รวมทั้งฟุตบอลถ้วยอีก 3 รายการ
ขณะที่ฤดูกาลนี้คุมทีมลงเล่นไป 9 เกมยังไม่เสียแต้มให้ใครชนะรวด ยิงไป 30 ลูก เสียเพียง 2 ประตู ขณะที่ผลงานใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ลงเล่นไป 3 เกม ชนะ 2 เสมอ 1
อโมริม ได้รางวัลกุนซือยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของ พรีเมียร่า ลีกา สองสมัยในปี 2021 และ 2024 รวมทั้งเคยได้เทรนเนอร์ยอดเยี่ยมประจำเดือน 9 หน
2. คนหนุ่มไฟแรง
อโมริม เพิ่งอายุแค่ 39 ปีเท่านั้น ทำให้เหมาะที่จะเข้ามาสร้างทีม แมนยู และวางรากฐานให้กับสโมสรในระยะยาว
ความสำเร็จของ อโมริม พิสูจน์ให้เห็นถึงความเข้าใจและพรสวรรค์ในการบริหารจัดการทีมได้เป็นอย่างดี
อโมริม น่าจะเป็นตัวเลือกกุนซือหนุ่มที่ดีที่สุดสำหรับ แมนยู และเหมาะกับนโยบายของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่ต้องการให้ทีมเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ และสร้างความสุขให้แฟนบอล
3. แท็กติกยืดหยุ่น
อโมริม ขึ้นชื่อในเรื่องการวางแท็กติก โดยมีความยืดหยุ่นปรับได้ตามสถานการณ์ และมีความแข็งแกร่งทั้งเกมรับและเกมรุก
จุดเด่นสำหรับกุนซือคนหนุ่มรายนี้ คือถนัดใช้ระบบการเล่นแบบ 3-4-3 หรือปรับเป็น 3-4-2-1 ก็ได้ และมักให้โอกาสกับบรรดานักเตะดาวรุ่งอยู่เสมอ
แท็กติกของ อโมริม เป็นฟุตบอลสมัยใหม่ที่เน้นเกมรุก โจมตีคู่แข่งรวดเร็ว แลtบุกมันเร้าใจสร้างความเอนเตอร์เทนให้แฟนบอลซึ่งน่าจะถูกใจกองเชียร์ “ปีศาจแดง” แน่นอน
4. เคยฝึกงาน แมนยู มาแล้ว
อโมริม เคยเล่นเป็นกองกลางให้ เบเลเนนส์ และ เบนฟิก้า รวมทั้งติดทีมชาติโปรตุเกส 14 นัด ก่อนแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2017
จากนั้น อโมริม ผันตัวมาทำงานโค้ช และเคยมาฝึกงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ สมัยคุม แมนยู เมื่อปี 2018
อโมริม มีความคล้ายคลึงกับ มูรินโญ่ จนบางคนตั้งฉายาให้เขาเล่นๆ ว่าเป็น “นิว มูรินโญ่” ด้วย ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ยังเคยพูดด้วยความภาคภูมิใจว่าเป็นศิษย์ของ มูรินโญ่ เช่นกัน
5. จิตวิทยาสูง
นอกจากฝีมือการคุมทีมแล้วนั้น อีกหนึ่งอย่างที่หลายคนมองว่า อโมริม คล้ายกับ มูรินโญ่ คือฝีปากในการพูด
อโมริม เชื่อว่าการแข่งขันเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่พูดกับสื่อ ไม่ใช่ตอนที่เกมกำลังจะเตะกัน เพราะหากพูดได้ดีแล้วนั้นจะทำให้ทีมของตัวเองได้เปรียบคู่แข่งตั้งแต่ก่อนเตะ
กุนซือวัย 39 ปี มักจะได้รับคำชมว่าทำได้ดีทั้งด้านการพูดปลุกใจทีมของตัวเองและการพูดยั่วยุคู่แข่ง จนทำให้บางคนยกให้เขาเป็นปรมาจารย์ด้านการพูดยั่วยุด้วยซ้ำ