เฟเนบาห์เช่ พบ แมนยู! 5 ประเด็นผีเจ๊าอีกแล้ว, อันโตนี่ ส่อเดี้ยงยาว?

แมนยู ยังไม่รู้จักกับคำว่าชนะในการฟาดแข้งถ้วย ยูโรปาลีก ต่อไปเมื่อเกมล่าสุดพวกเขาบุกมาทำได้แค่เสมอกับ เฟเนบาห์เช่ 1-1 ในการฟาดแข้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ต.ค.แม้จะยิงประตูนำทีมเติร์กได้ก่อน และลงเอยแล้วสามเกม ผีแดง เก็บได้แค่สามแต้มเท่านั้น แถมทำท่าว่าจะเสีย อันโตนี่ ที่เดี้ยงยาวเพิ่มไปอีกรายด้วย

1. เจ้าบ้านใช้งานอดีต2แข้งผีออกศึก

โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ทีม เฟเนบาห์เช่ ซึ่งเคยกุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด มาก่อนวางหมาก 11 นักเตะด้วยการส่ง เฟร็ด กับ โซฟียาน อัมราบัต อดีตสองกองกลาง ผีแดง ลงสนาม

นอกจากนี้ ทีมดังของลีกเติร์กยังมีนักเตะที่เคยหากินใน พรีเมียร์ลีก ลงต่อกรกับ เร้ด เดวิลส์ นัดนี้อีกหลายรายอาทิ คักลาร์ โซยุนชู , อัลล็อง แซงต์ มักซิแมง และกัปตันทีม ดูซาน ทาดิช

 

อย่างไรก็ดี เฮียมู ยังต้องใช้งาน ไบรท์  โอซายี่ ซามูเอล ต่อไปเนื่องจาก เจย์เดน ออสเตอร์โฟลด์ ร้างสนามไปตลอดทั้งซีซั่นจากอาการบาดเจ็บ ขณะที่ในแดนหน้าเป็นภาระของ ยุสเซฟ เอ็น เนซีรี่ โดยมี เอดิน เชโก้ นั่งอยู่ในซุ้ม

2. ผีส่ง ลินเดอเลิฟ สตาร์ต,มาร์ติเนซ กัปตัน

แมนฯ ยูไนเต็ด ของกุนซือ เอริค เทน ฮาก ส่ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ปราการหลังทีมชาติ สวีเดน ลงสนามเป็นตัวจริงหนแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.

ขณะเดียวกัน ทีมเยือนใช้งานกัปตันทีม ลิซานโดร มาร์ติเนซ สวมบทแบ็คซ้ายอีกนัดโดย ลินเดอเลิฟ ได้ทำหน้าที่เป็นคู่ขาของ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ขณะที่ นุสแซร์ มาซราวี ขยับขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์แทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ติดโทษแบนเนื่องจากดาวเตะทีมชาติ โมร็อกโก เล่นได้สารพัดตำแหน่ง และเคยลงเล่นในแดนกลาง 44 นัด แถมยิงได้ 7 ประตูจากตำแหน่งนี้

อย่างไรก็ดี กุนซือดัตช์ดร็อป ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นตัวสำรองแม้ศูนย์หน้าทีมชาติ เดนมาร์ก จะยิงประตูชัยพาทีมเฝ้าบ้านแซงชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด

3. โอนาน่า ร่างทอง

แม้ช่วงที่ย้ายมาเฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ใหม่ๆ อ็องเดร โอนาน่า จะถูกวิจารณ์บ่อยครั้งจากการก่อความผิดพลาด แต่เจ้าตัวยังยืนยันไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่น

จนในที่สุด หลังจากทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง นายทวารทีมชาติ แคเมอรูน ก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่เขามีต่อ ผีแดง มากขี้นทุกทีเนื่องจากเกมรับที่เปราะบางของทีมอสูรยังเป็นปัญหาที่ เทน ฮาก ไม่อาจแก้ไขได้

ในเมื่อแผงหลังอ่อนปวกเปียก และเปิดพื้นที่ให้ทีมคู่แข่งบุกเข้าเขตอันตรายเป็นระลอก โอนาน่า ปราการด่านสุดท้ายจึงต้องทำงานหนักไม่น้อยกว่าใครในทีม

โดยเฉพาะเกมบุกมาเยือน เฟเนบาห์เช่ ในครึ่งแรกซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมานำทั้งๆที่ส่งบอลเข้ากรอบหนเดียว ต้องยอมรับว่าหากไม่ได้ โอนาน่า เซฟเอาไว้ ผีแดง น่าจะโดนทีมเติร์กตีเสมอ 1-1 เป็นอย่างน้อยจากจังหวะที่เขาเซฟลูกโขกจ่อๆของ เอ็น เนซีรี่ ติดๆกันสองหน

ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะสถิติหลังจบ 45 นาทีแรกบ่งชี้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นรองบานเบอะทั้งการครองบอล 60.70%:39.30% และเป็นเจ้าบ้านที่ได้ยิงมากกว่า 7:2 ครั้ง แถมเข้ากรอบมากกว่า 4:1 ครั้งซึ่งชัดเจนว่า โอนาน่า ระเบิดความเหนียวออกมาช่วยทีมเอาไว้ได้

4. เอ็น เนซีรี่ แสบอีกแล้ว, อันโตนี่ เดี้ยงยาว?

หลังพลาดการทำสกอร์ให้ทีมอย่างไม่น่าเชื่อในครึ่งแรกจากการโดน โอนาน่า เซฟสองจังหวะติดกัน ในที่สุด เอ็น เนซีรี่ ก็ฉีกตาข่าย ผีแดง ได้สำเร็จจากลูกโขกช่วงต้นครึ่งหลัง  

หากยังจำกันได้ แฟนบอล ผีแดง น่าจะรู้จักกองหน้าทีมชาติ โมร็อกโก เป็นอย่างดีสมัยที่เขายังค้าแข้งกับ เซบีย่า เนื่องจากดาวยิงวัย 27 ปีเคยทำแสบให้กับทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในรายการนี้มาก่อน

ในซีซั่น 2019/20 ของถ้วยใบนี้ เอ็น เนซีรี่ มีส่วนร่วมพาทีม เซบีย่า เขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบตัดเชือกด้วยสกอร์ 2-1 จากการเล่นกันแค่เกมเดียวเนื่องจากปัญหาการแพร่เชื้อโควิด 19 แม้ว่าเขาจะไม่ได้สับไกทั้งสองประตูโดยในซีซั่นที่่ว่าทีมจาก ลา ลีกา คว้าแชมป์ไปได้ด้วยการเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-2

ถัดมาในซีซั่น 2022/23 ของรอบแปดทีม เอ็น เนซีรี่ กระทุ้งได้สองตุงในเกมรอบแปดทีมนัดสองช่วยให้ เซบีย่า เปิดรังกำชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 รวมผลสองนัด ผีแดง ตกรอบอีกหนด้วยสกอร์รวม 5-2 โดย เซบีย่า ซึ่งเป็นราชาถ้วยใบนี้ได้แชมป์อีกจนได้จากการดวลลูกโทษชนะ โรม่า หลังเกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1

และในที่สุด เอ็น เนซีรี่ ก็เบิกสกอร์แรกของเขาในถ้วยใบนี้ให้กับต้นสังกัดในลีกเติร์กปฏิเสธชัยชนะของ ผีแดง อีกจนได้จากการตีเสมอให้ เฟเนบาห์เช่ แบ่งแต้มจนทำให้ทีมของ เทน ฮาก ต้องรอคว้าสามแต้มเต็มเป็นเกมแรกในรายการนี้ต่อไป

นอกจากจะพลาดการคว้าชัยชนะแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ทำท่าว่าจะเสีย อันโตนี่ ที่ส่อเค้าเดี้ยงเพิ่มแบบยาวนานไปอีกรายด้วยแม้ปีกทีมชาติ บราซิล จะลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด ในนาทีที่ 73 แต่เหมือนจะเจ็บน่องซ้าย และเล่นต่อไปไม่ไหวจนต้องส่ง อาหมัด ลงไปรับช่วงแทนในช่วงสองนาทีสุดท้าย

ยิ่งไปกว่านั้น ดาวเตะแซมบ้าถูกหามลงเปลออกไปจนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ปีศาจแดง อาจเสียนักเตะเพิ่มอีกรายอย่างยาวนานแม้จะว่าไปสาวก เร้ด อาร์มี่ อาจไม่ได้ซีเรียสอะไรกับปัญหานี้เพราะไม่ว่าจะมีหรือไม่มีอดีตสตาร์ อาแจ็กซ์ อยู่ในทีมมันแทบไม่เกิดความแตกต่างอะไร

5. เกมเยือนยุโรปห่วยแล้ว ห่วยอีก ห่วยต่อ

หลังโดน เฟเนบาห์เช่ แบ่งแต้มแม้จะได้ประตูก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ในกำมือของกุนซือสกินเฮดยังสานต่อผลงานเกมเยือนในถ้วยยุโรปที่แสนเลวร้ายอีกต่อไป

ถึงตอนนี้ ผีแดง อาจไม่แพ้เกมรอบแบ่งกลุ่มถ้วย ยูโรปาลีก มานานแปดนัดแล้วก็จริง (ชนะห้า เสมอสาม) แต่สามเกมกับสามแต้มไม่ใช่เครื่องหมายการค้าของทีมที่จะประสบความสำเร็จ หรือคว้าตำแหน่งแชมป์ได้

ขณะเดียวกัน เทน ฮาก ไม่อาจพาทีมกำชัยเกมเยือนในฟุตบอลยุโรปได้อีกเลยนับตั้งแต่แมตช์บุกไปชนะ เรอัล เบติส 1-0 เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2023 ในเกมรอบ 16 ทีมถ้วย ยูโรปาลีก จากประตูโทนของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งพาทีมทะลุเข้ารอบควอเตอร์ไฟนั่ลได้ด้วยสกอร์รวม 5-1 ก่อนพ่าย เซบีย่า

นับจากนั้นมา ผีแดง ลงเล่นเกมยุโรปอีกห้านัด และเสียประตูเป็นเข่งถึง 17 เม็ด แถมในจำนวนนี้พวกเขานำก่อนสองประตูถึงสี่เกม แต่ทำได้ดีที่สุดแค่เสมอสองเกม

และที่สำคัญ แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลลัพธ์เกมเยือนที่เลวร้ายอย่างแรงไล่ตั้งแต่เกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มซีซั่นก่อนที่พวกเขาออกไปแพ้ บาเยิร์น 4-3 ,แพ้ โคเปนเฮเก้น 4-3 และเสมอ กาลาตาซาราย 3-3  จนเป็นทีมบ๊วยของกลุ่มชวดหล่นไปเตะถ้วย ยูโรปาลีก อย่างน่าขายหน้า

สำหรับซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังแก้ปัญหาการเล่นเกมเยือนถ้วย ยูโรปาลีก ไม่ได้เช่นกันอันรวมถึงเกมแรกที่เปิดบ้านโดน ทเวนเต้ ตีเสมอ 1-1 ด้วยก่อนออกไปไล่แบ่งแต้ม สปอร์ติ้ง ลิสบอน แบบเจียนอยู่เจียนไปด้วยผลเสมอ 3-3 แล้วมาโดน เฟเนบาห์เช่ แบ่งแต้มไปอีกด้วยสกอร์ 1-1 ซึ่งบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าแฟนบอล ผีแดง ไม่อาจเชื่อใจทีมรักได้เลยในการเล่นเกมยุโรปนอกบ้าน