ควันหลังผล แมนยู พบ เชลซี เสมอ 1-1 จากโรงละครไม่ผิดคาด
ก่อนแข่งนี่ super computer จำลองสถิติ10,000 ครั้ง
ออกมา แมนยู ชนะ 37.8% เชลซี ชนะ 37.3 %
ตัวเลขก็เรื่องหนึ่งแต่บอลในสนามเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงของเจ้าบ้าน ความคึกคัก ความกระตือรือร้นย่อมมีมากขึ้น
การถล่มเลสเตอร์ 5-2 พอบอกได้บ้างถึงความรู้สึกนั้น
ขณะที่ เชลซี ของโค้ชใหม่ มาเรสก้า ยังคงค้นหาความต่อเนื่องในการเล่น และยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น
ตามเชิงบอล เชลซี มีภาษีดีกว่าก่อนเล่น
แมนยู ได้ความคึกคัก ความตื่นตัว และความหวังใหม่ นับจากอึดอัดกันมา1ปีครึ่ง
คราวนี้พอลงสนามไปแล้วดูเหมือนจะไม่มีใครทำให้อีกฝั่งต้องเสียท่ากันง่ายๆ
มันขาดอะไรไปอย่างนั้นหรือครับ???
1 เชลซี สดแต่บดไม่ได้
คือ มาเรสก้า ยกชุดจากที่โดนนิวคาสเซิล เขี่ยตกรอบ คาราบาว คัพ
สภาพทีมดูพร้อม ส่วน แมนยู นั้น โครงเดิมที่ถล่ม เลสเตอร์ ยังอยู่ ปรับ2-3 ตำแหน่ง ในแนวรับ
กระนั้นกลายเป็นเจ้าบ้านดู ลุยๆกว่า
ถ้าเทียบกับที่ผมเห็นในแอนฟิลด์ วันก่อน
ถือว่าผิดฟอร์ม คือครองบอล ผ่านบอลได้ แต่ไม่ได้คุมเกม อะไรมากเหมือนนัดแพ้หงส์แดง
การล่อซื้อ แมนยู ครึ่งแรก ด้วยการบิลด์เกมรุกแบบ
หลัง3 โยก รีส เจมส์ ยืนซ้าย ขยับ กุสโต เป็นเบอร์8
ใช้ ลาเวีย – ไกเซโด้ ยืนคู่กันเพื่อเดินบอลแดนกลาง
ระหว่างไลน์ พลิกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ทะลุทะลวงเท่าไหร่
อีกทั้งแบ๊กโฟร์ ผีแดง ยืนshape ดีเวลาตั้งรับ
บอลแดนสามเชลซี ก็ไปตายบ่อยๆ หาจังหวะจบได้ยาก
นักเตะที่เด่นสุดของเชลซีคือ ไกเซโด้ ที่เป็นทุกอย่างในเกมนี้ ตัดบอล แย่งบอล ออกบอล และยิงเซฟ 2 แต้ม
2 ขุนพล แมนยู เท่าที่ได้
ตามนั้นครับ หลายครั้งการโจมตีที่วูบวาบ มาวืดในจังหวะสุดท้าย โดยเฉพาะ ปีกสองฝั่ง เมื่อถึงแดนสามต้องนับครั้งว่าเสียมากกว่าทำได้ดี
ยิ่งจังหวะยิงด้วยแล้วยิ่งดูไม่มีลุ้น
ทั้ง การ์นาโช และ แรชฟอร์ด เท่าที่เห็น
แถมทำบอลเสียอยู่เรื่อยๆ การร่วมเล่นกับ ฮอยลุนด์ มีน้อย
โดดเด่นสุดคือ บรูโน กัปตัน และ มาสราวี
รวมทั้ง เดอ ลิกต์ ที่คุมเกมรับได้นิ่งอยู่
ยังรอดูอยู่ว่า รูเบร อโมริม จะจัดการทีมนี้ยังไง
3 บอลสนุกแต่ขาดคุณภาพ
สนุกในแง่ที่บอลเปลี่ยนจังหวะการเล่นเร็ว เมื่อเกิดการเสียบอลจากสองฝั่งจะเห็นว่าการโจมตีไปเร็ว สร้างความฮือฮาให้สาวกตัวเอง แต่สุดท้ายบอลไปตายแดนสาม
ตายเพราะเปิดบอลเสีย ขาดบ้าง เกินบ้าง
กระทั่งตัวเด็ดอย่าง โคล พาลเมอร์ ก็ยังไม่ฉาย
หรือจังหวะจบก็ไม่มีคุณภาพ ยิงทิ้งๆขว้างๆ
ไม่ได้ทำให้ โอนานา หรือ ซานเชส ออกแรงเหนื่อย
4 ใบแดงมั้ย?
การเล่นแบบสุ่มเสี่ยง วัดใจ ดุลยพินิจของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ดุลยพินิจของผม
น่าโดนอย่างยิ่งครับ
คือ มาร์ติเนซ เข้าพรวด โดน พาลเมอร์ กระดกบอลหลบ เลยแย่งบอลไม่ได้ แต่ติดนิสัยเล่นนอกเกม เลยขอซะหน่อย ยกเท้าเสียบระดับหัวเข่า
กระนั้น The Premier League Match Centre
ซึ่งปีนี้ใช้ social อธิบายการตัดสินใน X ได้ทวิตว่า
“VAR เช็คกรณีใบแดงหรือไม่ ขอยืนยันตาม ผตส
ว่าไม่เป็นใบแดง ถือว่าเป็นการเข้าสกัดโดยประมาทไม่ใช่การทำฟาวล์แบบรุนแรง”
อย่างว่าแหละครับ ผตส 10 คน อาจมองไม่เหมือนกัน
ขึ้นกับว่าใครมองและมองแบบไหน
ผู้ตัดสินคือ ปัจจัยแห่งโชคครับ ไม่มีทางแก้ไขได้
ตราบที่ยังต้องใช้คำว่า “ตีความ” และ “ดุลยพินิจ”
ตามกติกาที่เขียนละเอียดยิบ
ไม่มีโชคคือตัดสินไม่เป็นใจ
มีโชคคือตัดสินแล้วเราได้ประโยชน์
ทุกทีมโดนเหมือนกันหมดแค่มากหรือน้อยเท่านั้น
การแบ่งคะแนน ก็เหมาะสมดีครับ
มันไม่มีใครเหนือกว่าหรือดีพอที่จะชนะในเกม